โตโยต้าเปิดตัวยาริสรุ่นปรับโฉมใหม่-จัดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 4.79 แสนบาท
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์คอมแพ็กต์แฮตช์แบ็กยอดนิยม ยาริส รุ่นปรับโฉมใหม่ เพิ่มดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ต ตอบสนองการขับที่ยอดเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ DUAL VVT-i 1.2 ลิตร ที่มีอัตราประหยัดน้ำมัน 20 กม./ลิตร และระบบความปลอดภัยมาตรฐานสูงสุดติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 จุด พร้อมจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 479,000 บาท ตั้งแต่วันนี้- 31 ตุลาคม 2560
ยาริส รุ่นปรับโฉมใหม่ ปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกให้มีความเฉี่ยวรอบคัน เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์พร้อมไฟ LED Light Guiding, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED, ไฟตัดหมอกหน้า และไฟท้าย LED Light Guiding ที่สะท้อนถึงความหรูหราทันสมัยอย่างลงตัว
การออกแบบภายในตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่า ห้องโดยสารของยาริส รุ่นปรับโฉมใหม่ ยกระดับดีไซน์ล้ำสมัยเน้นความกว้างขวางสะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ติดตั้งวัสดุซับเสียงรบกวนทำให้มีความผ่อนคลายเหนือกว่ารถในกลุ่มซับคอมแพ็กแฮตช์แบ็ค
ความสนุกในการขับยังคงอยู่เหมือนเดิม ด้วยเครื่องยนต์ DUAL VVT-i 1.2 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ตอบสนองการขับที่ดีขึ้นด้วยกำลังสูงสุด 86 แรงม้า และมีอัตราประหยัดน้ำมัน 20 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมัน E20 รวมทั้งสร้างความมั่นใจในทุกสถานการณ์ขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยสูงสุดเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น และเป็นหนึ่งเดียวในรถยนต์แฮตช์แบ็กขนาดเล็กที่มีถุงลมนิรภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง
มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า “นับจากวันนี้เป็นต้นไปเราจะจารึกอีกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของยาริส แฮตช์แบ็ก อันเป็นการสืบทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครของยาริส รถที่เป็นที่สุดของความใช่ ในสไตล์คุณ ยาริส แฮตช์แบ็ก รุ่นปรับโฉมใหม่ จะเข้ามาเติมสีสันในชีวิตคุณพร้อมมอบสไตล์อันโดดเด่น และพลังความคิดสร้างสรรค์อย่างล้นเหลือ เมื่อได้ยลโฉมรถยาริส แฮตช์แบ็ก รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ คุณจะสะดุดตาไปกับรูปลักษณ์ที่มาพร้อมสไตล์ที่โดดเด่น และเมื่อก้าวเข้าไปในรถ คุณจะพบกับห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้นโตโยต้า ยาริส ใหม่ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่ครบครัน เพื่อให้คุณ และคนที่คุณรักซึ่งนั่งอยู่ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง รู้สึกอุ่นใจได้ในทุกสถานการณ์ ที่สำคัญคือเมื่อคุณขับรถคันนี้ ทุกสายตาบนท้องถนนจะจับจ้องมายังคุณ ด้วยความรู้สึกอยากครอบครองเป็นเจ้าของยาริส ใหม่ เช่นกัน”
ทางด้านนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “โตโยต้า จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้า และผู้ที่สนใจได้ร่วมสัมผัสยาริส ใหม่ ที่โชว์รูมโตโยต้า ทั่วประเทศ ในวันที่ 22-24 กันยายน 2560 เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ขับอย่างทั่วถึง พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมพิเศษ ที่สำคัญเรายังได้จัดเตรียมข้อเสนอพิเศษเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ด้วยโปรแกรม Convini-EXT ทางเลือกใหม่จากแพ็กเกจที่คุ้มค่าด้วยการรวมสิทธิประโยชน์ 3 รายการ ให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถยนต์ยาริส ได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบเงินดาวน์ และดอกเบี้ยต่ำ พร้อมประกันภัย และการขยายการรับประกันคุณภาพ นอกจากนี้เราขอมอบราคาพิเศษในช่วงแนะนำสำหรับลูกค้าที่จอง และออกรถตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2560 และจะปรับราคาขึ้นเช่นเดียวกับยาริส เอทีฟ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป โดยยาริส ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น 7 สี และมีเป้าหมายการขายในปี 2560 ที่ 3,200 คันต่อเดือน”
สำหรับโตโยต้า ยาริส รุ่นปรับโฉมใหม่ จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น 7 สี (Citrus Mica Metallic / Orange Metallic/ Red Mica Metallic/ Super White/Silver Metallic / Gray Metallic/ Attitude Black Mica)
- รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 609,000 บาท**
- รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 559,000 บาท**
- รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 529,000 บาท**
- รุ่น J ECO เกียร์อัตโนมัติ ราคา 479,000 บาท**
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน
ร่วมสัมผัส “New YARIS…YES, THAT’S RIGHT!” ที่สุดของความใช่ ในสไตล์คุณ และสอบถามรายละเอียด ได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่าย โตโยต้า 467 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ข้อมูลโตโยต้า ยาริส รุ่นปรับโฉมใหม่ “New YARIS…YES, THAT’S RIGHT!”
ภายนอก…YES THAT’S COOL!
- ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์พร้อมไฟ LED Light Guiding (เฉพาะรุ่น G)
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า (เฉพาะรุ่น G)
- ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED (ในทุกรุ่น) พร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม (เฉพาะรุ่น G)
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว (ในรุ่น G และ E)
- มือจับประตูโครเมียมพร้อมระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry (เฉพาะรุ่น G)
- ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว (ในรุ่น G และ E)
ภายใน…YES THAT’S COOL!
- พวงมาลัยหุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น G) พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง (ในรุ่น G และ E)
- มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะ MID (ในรุ่น G และ E)
- เครื่องเล่นวิทยุ CD/ MP3/ WMA พร้อมช่องต่อ USB/ AUX และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth (ในรุ่น G และ E)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมจอ LCD (ในรุ่น G และ E)
- พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบเพื่อการเข้า–ออกสะดวก
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start) (เฉพาะรุ่น G)
- ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry ควบคุมการล็อก – ปลดล็อกประตูและที่เก็บสัมภาระท้ายรถ (เฉพาะรุ่น G)
- แผงบังแดดคู่หน้า (ในทุกรุ่น) พร้อมกระจกแต่งหน้า (ในรุ่น G และ E)
ความสะดวกสบาย…YES THAT’S BIG!
- กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับฝั่งผู้ขับขี่
- ที่วางขวดน้ำบริเวณประตูผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า
- ช่องเสียบชาร์จไฟ 12V พร้อมช่องเก็บของข้างเบรกมือ
- ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ พร้อมที่ปิดสัมภาระด้านท้าย (ในรุ่น G และ E)
- เบาะที่นั่งด้านหลังปรับ–พับแยกอิสระแบบ 60:40 (ในรุ่น G และ E)
- กล่องเก็บของอเนกประสงค์ใต้ที่วางแขนตรงกลาง
- ลิ้นชักเก็บของฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า
- ช่องเก็บของข้างผู้ขับขี่
- ที่วางขวดน้ำ บริเวณคอนโซลด้านหน้าระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ช่องเก็บของหลังเบาะที่นั่งคู่หน้า (เฉพาะรุ่น G)
สมรรถนะ…YES THAT’S FUN!
- เครื่องยนต์ 3NR-FE 1,200 ซีซี 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i
- แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้า (63 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที
- แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
- ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แบบ EFI
- น้ำมันเชื้อเพลิง รองรับสูงสุด E20
- มาตรฐานไอเสีย EURO4
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 20กม./ลิตร
- เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock
- พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering)
- ระบบช่วงล่างเต็มประสิทธิภาพ
- ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics)
- หลังคาแบบ Catamaran ลดการปะทะของแรงลม
ระบบความปลอดภัย…YES THAT’S SAFE!
- ระบบสัญญาณเตือนสิ่งกีดขวางขณะถอยหลัง (ในรุ่น G และ E)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control)
- กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer (ในรุ่น G และ E)
- ระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow-Me-Home) (เฉพาะรุ่น G)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
- ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
- ดิสก์เบรกคู่หน้า
- ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า พร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ
- โครงสร้างนิรภัย GOA แข็งแกร่งปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก
- การออกแบบเพื่อลดแรงกระแทกศีรษะด้านข้างทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening)
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉินพร้อมที่ปั๊มลม
เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล : Toyota Motor Thailand
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th