ใหม่! รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R ปี 2021
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว กับ รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R บิ๊กไบค์สปอร์ตฟูลเฟรม ระดับเอนทรี่คลาส ที่มาพร้อมกับชุดแฟริ่งที่เพิ่มความดุดันให้กับตัวรถได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการแหวกลมให้ดีกว่าเดิม ด้วยการความสูง และความนูนของตัวรถ และที่สำคัญก็คือ ได้ทำการติดตั้งบล็อกเครื่องยนต์ DOHC ขนาด 150 cc ที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการเปิดตัวไปได้เพียงไม่นาน กลับได้รับความสนใจในหมู่นักบิดเป็นอย่างมาก ดังนั้นในวันนี้ทางเราก็มีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะพาทุกท่านที่มีความสนใจ และชื่นชอบรถรุ่นดังกล่าว ไปทำความรู้จักข้อมูลต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
ทำความรู้จักกับ รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R 2021 กันเถอะ
สำหรับ รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R 2021 ก็มาพร้อมกับรูปโฉม และโมเดลใหม่รอบคัน ที่ช่วยทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสถึงความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยชุดแฟริ่งที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ประกอบกับจอแสดงผลที่ได้ทำการดีไซน์ออกมาในรูปแบบดิจิทัล ที่ผสมผสานความเป็นสปอร์ต และความหรูหราได้อย่างลงตัว โดยมีคุณสมบัติในการแสดงผลของข้อมูลต่าง ๆ อย่างครบถ้วนให้กับผู้ขับขี่ นอกจากนี้ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนช่วงล่างทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อีกทั้งยังเพิ่มความคมชัดให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยไฟ LED รอบคัน เรียกได้ว่าเป็นการแปลงโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของรถรุ่นนี้เลยก็ว่าได้
เครื่องยนต์ของ รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R 2021
สำหรับเครื่องยนต์ของ รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R 2021 ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลังขนาด 149.16 ซีซี DOHC 4 วาล์ว ที่มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และมีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 12 ลิตร และในส่วนสมรรถนะต่าง ๆ ก็ถือว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก: 3 x 57.8 มิลลิเมตร
- อัตราส่วนแรงอัด:3:1
- ระบบกันสะเทือนด้านหน้า: แบบเทเลสโคปิค ปรับตั้งค่า Preload ได้
- ระบบกันสะเทือนด้านหลัง: แบบโช้คเดี่ยว โมโนโช้คแบบโปรลิงค์ ปรับตั้งค่า Preload ได้ 5 ระดับ
- ล้อ: ล้อแม็กซ์แบบใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขนาด 17 นิ้ว
- ระบบจ่ายน้ำมัน: หัวฉีด PGM-FI
- ระบบส่งกำลัง: เกียร์ 6 ระดับ 1-N-2-3-4-5-6
- ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง: แก๊สโซฮอล์ 91, เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), เบนซิน 95, แก๊สโซฮอล์ E20
- ระบบเบรก: Anti-Lock Braking System (ABS)
- ระบบสตาร์ท: สตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า
- ระบบจุดระเบิด: ระบบควบคุมการจุดระเบิดล่วงหน้า ด้วยคอมพิวเตอร์
- ระบบคลัทช์: คลัทช์เปียก แบบหลายแผ่นซ้อนกัน
- ยางล้อหน้า: 100/80-17 M/C 52P
- ยางล้อหลัง: 130/70-17 M/C 62P
ข้อมูลทั่วไปของ รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R 2021
สำหรับ รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R 2021 ก็มาพร้อมกับเฉดสีใหม่จำนวน 4 สีด้วยกัน อาทิ สีดำ, สีแดง, สีเทา-ส้ม และสีดำ-ส้ม และในส่วนของล้ออัลลอยก็ยังมีการออกแบบให้มีสีที่ต่างกัน คือ ด้านหน้าเป็นสีแดง และด้านหลังเป็นสีดำนั่นเอง แต่ในส่วนของรูปลักษณ์อื่น ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่ไปจากเดิมมากนัก และยังคงอวดโฉมไฟหน้า LED คู่ ที่มาพร้อมกับ DRL LED ที่สวยสะดุดตา คลิปออนตั้งค่าต่ำ ให้ตำแหน่งการขับขี่ในลักษณะเอนไปด้านหน้า อีกทั้งถังน้ำมันที่ได้ทำการแกะสลักได้อย่างสมบูรณ์แบบ และส่วนท้ายทรงสูงที่ชูให้ตัวรถมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของราคาจัดจำหน่าย ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนว่า รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R 2021 ได้ทำการผลิตออกมาจัดจำหน่ายอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีสมรรถนะ การออกแบบ ฟังก์ชัน และราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับปัจจุบันต่าง ๆ เป็นสำคัญ ทั้งนี้เพื่อเป็นการชี้นำแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อให้มากยิ่งขึ้น ก็ไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่า ราคาจัดจำหน่ายของรถรุ่นนี้ จะมีราคาอยู่ที่เท่าใดบ้าง
- Honda CBR150R รุ่น ABS จะมีราคาจัดจำหน่ายในตลาดรถจักรยานยนต์ อยู่ที่ 99,000 บาท
- Honda CBR150R รุ่น Standard จะมีราคาจัดจำหน่ายในตลาดรถจักรยานยนต์ อยู่ที่ 92,000 บาท
ซึ่งจะเห็นได้ว่าความห่างของราคารถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั้ง 2 รุ่น ไม่ได้มีความห่างกันสักเท่าไหร่นัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากทุกท่านต้องการเลือกซื้อรถหนึ่งในสองรุ่นนี้ ก็จำเป็นจะต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย และอย่าได้คิดถึงเพียงแค่ตัวเลขของราคาต่าง ๆ ดังกล่าวมากจนเกินไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์ตามความต้องของตนเองให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
จากบทความที่เพิ่งกล่าวไปทั้งหมดเมื่อข้างต้น จะเห็นได้เลยว่า รถจักรยาน ฮ อน ด้า Honda CBR150R ที่เพิ่งทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2021 ค่อนข้างมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยความที่มีสมรรถนะภาพสูง มีรูปลักษณ์ภายนอกที่แลดูโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ สามารถสะกดสายตาผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวกสบายอย่างถึงที่สุด เพราะฉะนั้นสำหรับท่านใดที่ยังคงลังเล ก็บอกเลยว่าไม่จำเป็นจะต้องลังเลใจแต่อย่างใด เพราะถ้าหากทุกท่านตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้แล้วล่ะก็ จะถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยนั่นเอง
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th