ไม่นิ่มเลยยยย รถหรือเกวียนนน !!! 5+1 สาเหตุที่ทำให้รถกระด้างขึ้น
คนที่ซื้อรถ ก็ย่อมต้องการความนุ่มนวลชวนฝัน เพื่อความสบายในการขับขี่และโดยสาร ไม่ดีแน่ๆ หากรถที่เราขับอยู่นั้น ขับไปขับมา มันกลายสภาพเป็น “เกวียน” ที่คงมีแต่ความแข็ง สะเทือนซาง จนทำให้ความสบายมันชักจะหายไปเสียแล้ว แถมการเกาะถนนก็ลดลงอีก ซึ่งมันจะต้องหาสาเหตุและการแก้ไข ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องโดน “ฟันเหนาะๆ” เสียเงินทำแพงๆ เสมอไป แต่บางทีเพียงแต่ “เส้นผมบังภูเขา” แก้ไขได้ง่ายๆ แบบไม่น่าเชื่อ พบกับ 10 หัวข้อ ที่ทำให้รถแข็งกระด้างมากขึ้น พร้อมวิธีแก้ไขครับ…
- ลมยางแข็งเกินไป : อันนี้แหละครับ “ง่าย” และ “ตกม้าตาย” ที่สุด บางทีการเติมลมยาง อาจจะมี “ข้อผิดพลาด” เกิดขึ้นได้ เช่น เกจ์วัดแรงดันที่เกิดการผิดเพี้ยน แจ้งค่าน้อยกว่าปกติ ทำให้เติมลมเข้าไปมากกว่าความเป็นจริง, ผู้เติมไม่ทราบถึงสเป็กที่ถูกต้องของรถยนต์รุ่นนั้นๆ หรือ ความเชื่อที่ว่า เติมลมเยอะๆ เผื่อไว้ก่อน ขี้เกียจเติมบ่อย ความจริงก็คือ “เติมลมยางตามมาตรฐานของผู้ผลิต” จะมีสติกเกอร์บอกไว้กับเสากลางของตัวรถ (แล้วแต่รุ่นนะครับ ต้องศึกษาคู่มือ) จะดีที่สุดครับ…
- ยางหมดอายุ : เนื้อยางจะมีความแข็งกระด้าง เพราะความยืดหยุ่นต่ำลงมาก ทำให้ไม่เกาะถนน ลื่นน้ำ เสียงดัง และบางทียางดูใหม่ ดอกเยอะ แต่ไปเจอพวกสายจอด (บางทีก็พวกรถโดนยึดแล้วปล่อยสู่ตลาดทีหลัง) ก็ทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้เช่นกัน แบบนี้แนะนำให้เปลี่ยน “ยางใหม่” ลูกเดียวครับ เพราะฝืนใช้จะไม่ใช่แค่กระด้าง แต่อาจจะ “ยางระเบิด” ทำให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่แบบไม่คุ้มค่ากันเลย…
- ใช้ยางคุณภาพต่ำ : เข้าใจครับมันเป็นสภาวะ “กระเป๋าแบน” เลยต้องซื้อยางราคาถูก คุณภาพก็ต่ำตามราคา อาจจะดีแค่ไม่กี่เดือน หลังจากนั้นเนื้อยางแข็งกระด้าง มีเสียงดัง แบบนี้ก็ต้องทำใจหน่อยเพราะ “จำใจใช้” และเรื่องที่ต้องรู้ คือ ต้องเปลี่ยนเร็วขึ้น เพราะอายุมันก็จะสั้นกว่ายางคุณภาพสูง ยังไงหมั่นตรวจสภาพมันบ่อยหน่อยก็ดีครับ แต่ก็มีอีกมุม จะซื้อยางคุณภาพสูง ต้องเช็ค “อายุยาง” ด้วยนะครับ ถ้าเก็บเก่านานเกินไปกว่า 5 ปี เนื้อยางจะแข็งกระด้างได้เช่นกัน…
- โช้คอัพ หรือ ช่วงล่างเสีย : โช้คอัพ ถ้ามันเสีย ก็จะมีสองอย่าง คือ น้ำมันรั่ว ทำให้สูญเสียความหนืดไป รถจะมีอาการโยน ย้วย เด้งดึ๋งดั๋งไม่หยุด ไม่ดูดซับแรงกระแทก เพราะหน้าที่ของโช้คอัพ คือ “หยุดการเต้นของสปริง” อีกอย่าง คือ “โช้คอัพตาย” วาล์วเสีย แกนคด อันนี้จะออกแนว “กระแทกกระทั้นโครมคราม” เพราะมันกลายร่างเป็น “ไม้ตีพริก” ไม่มีการยืดหยุ่นใดๆ รวมไปถึง การสึกหรอของช่วงล่างจุดอื่นๆ เช่น บูชยางต่างๆ แตก กรอบ ก็จะเกิดเสียงดังลั่นๆ เพิ่มขึ้นมา ควรรีบเช็คเพราะเป็นจุดที่ทำให้เกิดอันตรายได้ ส่วนอีกเคส รถเก่าปีลึก ใช้น้อย บูชยางอาจจะไม่แตกจริง แต่ “เนื้อยางแข็งหมดอายุ” ก็ทำให้รถมีอาการกระด้างได้เช่นเดียวกัน…
- โหลดเตี้ยแบบผิดวิธี : อันนี้เป็นเคสพิเศษ สำหรับสายซิ่ง ที่อยากได้รถเตี้ยสวย แต่เล่นง่ายด้วยการ “ตัดสปริง” เป็นวิธีคลาสสิกสุดๆ การตัดสปริงด้วยแก๊ส ทำให้เกิดความร้อนสูง แถมทำให้เย็นทันใดด้วยการจุ่มน้ำ ส่งผลให้เนื้อเหล็กสปริงเสียสภาพการยืดหยุ่น และอันตรายถึงกระทั่ง “สปริงหัก” เมื่อใช้งานไปสักระยะ ทำให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรง แนะนำว่า ควรซื้อสปริงโหลดแบบเฉพาะทาง หรือ ซื้อโช้คอัพแบบสตรัทปรับเกลียวที่มีคุณภาพดี ทำให้ขับขี่ได้อย่างหนึบแน่น มั่นใจขึ้นครับ…
- รถปกติ แต่เป็นที่คนขับ : แถมให้อีกนิดครับ บางทีคนเราเกิด “ความเคยชิน” แรกๆ ซื้อรถมาก็ยังเห่อ ประคบประหงม แทบจะหยอดทุกเนิน พอขับๆ ไปเริ่มชิน ไม่ค่อยสนใจละ รีบๆ ก็ “รูด” นงเนินไรไม่สนใจละ รวมไปถึงสภาพถนนที่ “มหาบันเทิง” ในด้านเลวร้ายลงทุกวันๆ ก็จะทำให้เกิดการสะเทือนมากขึ้น ช่วงล่าง ยาง ทุกอย่างเสียหายเร็วขึ้น เพราะฉะนั้น “เบาได้เบา” จะได้ไม่หน้ามืดตอนจ่ายตังค์ค่าซ่อมนะครับ…
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th